รีวิวหนัง 

10 Cloverfield Lane : 10 โคลเวอร์ฟิลด์ เลน

ภาพยนตร์ แนว : ชีวิต / วิทยาศาสตร์ / จิตวิทยา
ผู้กำกับ : Dan Trachtenberg

นักแสดงนำ : Mary Elizabeth Winstead,John Goodman,John Gallagher Jr.
ค่าย : พาราเมาท์ พิคเจอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล
ความยาว : 1 ชม. 45 นาที
ฉาย : 31 มีนาคม 2016

หนังเล่าเรื่อง มิเชลประสบอุบัติเหตุร้ายแรงขณะที่กำลังขับรถไปหาที่พักใจเพราะทะเลาะกับแฟนหนุ่ม เมื่อเธอตื่นขึ้นมาดันพบว่าตัวเองถูกจับขังอยู่ในห้องใต้ดินแห่งหนึ่ง แต่ที่น่าแปลกใจก็คือคนที่จับมิเชลมาขังกลับได้มีท่าทีคุกคามเธอแต่อย่างใด แต่กลับดูแล เอาใจใส่เธออย่างดี และบอกเพียงแค่ว่า [ข้างนอกอันตรายอยู่ข้างในปลอดภัยกว่า]

10 Cloverfield Lane เป็นหนังภาคต่อของ Cloverfield ที่เคยฉายในปี 2008 ก่อนจะดูหนังเรื่องนี้หลายคนอาจเกิดคำถามในใจ [ถ้าไม่ได้ดูภาคแรกจะดูเรื่องนี้รู้เรื่องไหม] ขอบอกว่าดูเรื่องครับ แถมตามมุมมองของผมเองยังจะดีเสียกว่าถ้าไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน เพราะคนที่เคยดูมาแล้วจะรู้ว่าเรื่องนี้ รวมไปถึงถ้าคนยังไม่เคยดูตัวอย่าง Do Not Let Her In ก็จะช่วยให้ดูหนังเรื่องนี้สนุกมากยิ่งขึ้น เพราะคนที่ไม่เคยดูภาคแรก และตัวอย่างที่ผมบอกจะไม่รู้ปมเฉลยในเรื่อง เพราะตัวบทช่วงแรกพยายามจะสื่อว่าตัวมิเชลน่ะถูกจับมาจริงๆ อันตรายข้างนอกที่ “ฮาร์เวิร์ด” คนที่จับตัวมิเชลมานั้นล้วนโกหกทั้งเพ แต่พอมีการเฉลยแล้วกลับมีปมใหม่เข้ามาอีกมากมาย เว็บดูหนังฟรี  

ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะใช้นักแสดงนำแค่ 3คน แต่ทั้งสามคนนี้เล่นได้ดีมากโดยเฉพาะฮาร์เวิร์ด ตัวผมเองที่เป็นคนดูแม้จะรู้เรื่องราวเบื้องนอกห้องใต้ดินว่าเป็นอย่างไร แต่ก็อดลุ้นตามมิเชลไปไม่ได้ เพราะมิเชลต้องค่อยๆ คลายปริศนาไปทีละอย่าง ยังดีที่มีคนที่ช่วยปรึกษาอย่างเอมเม็ทอยู่ด้วย แต่บางทีเอ็มเม็ทก็อาจไม่ใช่คนดีอย่างที่คิด นักแสดงทั้งสามคนสามารถส่งแรงกดดันจากบทที่ได้รับส่งมาให้ถึงคนดูได้อย่างมหาศาล และอีกจุดหนึ่งที่ต้องชมเชยมากๆ ก็คือหนังเรื่องนี้ทิ้งปมไว้ให้ขบคิดเยอะมาก ขนาดที่ว่าออกจากโรงมาแล้วก็ต้องมานั่งขวนขวายหาคำตอบกัน รวมไปถึงการทำซาวด์เสียงในภาพยนตร์ซึ่งดีมาก ไม่ว่าจะเป็นดนตรีประกอบ เสียงวัตถุต่างๆ รวมไปถึงบรรยากาศแวดล้อมที่มาตลอดเวลา

สรุป 10 Cloverfield Lane เรื่องนี้ควรค่าแก่การดูเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าคุณจะเคยดูภาคแรก หรือตัวอย่างมาก่อนจนรู้บทเฉลยบางส่วนมาแล้ว เพราะในหนังยังมีปมอื่นให้คนดูชวนคิดอยู่อีกเยอะ อีกอย่างแรงกดดันจากตัวหนังที่สื่ออกมาเยอะมาก ชวนให้ลุ้นระทึกตลอด ไม่ว่าจะจากอารมณ์นักแสดงก็ดี ดนตรีประกอบก็ดี สิ่งเหล่านี้ทำให้รู้สึกว่าดูแล้วคุ้มค่าไม่เสียเวลาดู

 


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม